วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

My favorite Diary

The Shawshank Redemption 

มิตรภาพ ความหวัง ความรุนแรง


คุณเชื่อในโอกาสที่ 2 ไหม ?


เรื่องย่อ : หนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนิยายของ Stephen King และได้ผู้กำกับ Frank Darabont มาถ่ายเรื่องราวที่สุดจะบรรยาย ของนายธนาคารหนุ่มอนาคตไกล ดูเฟรน ที่ดันพลั้งมือไปฆ่าแฟนสาวที่อยู่กับชู้(สงสัยคงแค้นจัด แถมหนังก็ไม่ได้บอกผู้ชมชัดๆว่าเป็นดูเฟรนเป็นคนทำอีก แต่ก็มีคำพูดคมๆ ที่ทำให้ผู้ชมไม่ต้องคิดถึงเรื่องนั้นเลย คือคำว่า "คนที่อยู่ในคุกที่นี้ ไม่มีใครคิดว่าตัวเองทำผิดหรอก") พระเอกเลยโดยตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิต ถูกนำตัวมายังเรือนจำ Shawshank และได้พบกับเรื่องราวต่างๆ ที่จะเปลี่ยนแนวคิดและชีวิตของเค้าไปตลอดกาล รวมถึงผู้ชมบางคนอีกด้วย!!!

ตัวเรื่อง : ทรงพลังที่สุดที่เคยดูมา ดำเนินเรื่องไปอย่างไม่มีสะดุด ไม่น่าเบื่อ จากหนังที่รู้สึกมืดมนในตอนแรก กลับมาสามารถให้ความรู้สึกสนุก น่าติดตามในกลางเรื่อง และกลับมามึดมนกว่าเก่าในช่วงท้าย จบด้วยการปิดฉากอย่างหักมุม แบบที่ผู้ชมคนไหนก็ไม่คิดมาก่อนว่าจะเล่นกันอย่างนี้ ต้องไปดูกับตัวเองถึงจะเข้าใจ

ตัวบท : ไม่มีคำบรรยายไหนจะเหมาะสมเท่ากับคำว่า "สมบูรณ์แบบ" ถึงแม้หนังแนว Feel Good (บางช่วงก็ออกแนว Feel Bad เหลือหลาย แต่หลักๆก็ไปแนวทางแรกซะมากกว่า) หากใครชอบหนังแนว Forrest Gump ของพระเอกหนุ่ม(ในตอนนั้น)และผมเหลือน้อยในตอนนี้อย่าง ทอม แฮงค์ รับรองว่าคุณจะหลงรักเรื่องได้ไม่ยากเย็น แต่ด้วยความ Shawshank ตัวบททำออกมาได้ดีไร้ที่ติ ดูลุ้นระทึก ครบทุกอารมณ์ และทรงพลังมาก (แทบจะหาจุดเสียของหนังแทบไม่เจอจริงๆ) 


นักแสดง : โดยส่วนตัว ผมไม่เคยชมภาพยนต์พระเอกอย่าง  Tim Robbins แสดงมาก่อน (อาจจะดูมาบ้าง แต่คงจำไม่ได้ แก่ๆแล้วทั้งนั้น 5555) แต่สำหรับเรื่องนี้คงการันตีถึงฝีมือว่าแน่ขนาดไหน Tim Robbins หรือ ดูเฟรน พระเอกของเรื่องนี้ได้แสดงบทของหนุ่มธนาคารที่ต้องดิ่งลงจุดต่ำสุดของชีวิตออกมาได้อย่างดีสุดๆ ลุ้นสุดๆ ทำเอาอินไปหลายฉาก ส่วนพระรองที่เป็นหนึ่งในนักแสดงในดวงใจของผม อย่าง มอร์แกน ฟรีแมน ก็รับหน้าที่เป็น  เรด นักโทษวัยดึกเพื่อนของดูเฟรน ที่มาช่วยพระเอกให้เรียนรู้ที่จะอยู่ในคุกนรกจากแก๊งโฉดทะลวงด้านหลัง และอีกหลายเรื่องๆ ที่เรดได้เรียนรู้จากดูเฟรนเช่นกัน คงไม่ต้องพูดถึงสำหรับฟรีแมน พี่แกเล่นเรื่อง ก็สมบทบาท ดูแล้วอินไปซะทุกเรื่อง (คนอื่นๆ ผมไม่รู้จัก 555) แต่ก็ถือได้ว่า นักแสดงทุกคนได้ทำให้หนังเรื่องนี้สมบูรณ์แบบจริงๆ

ดนตรี : แม้จะไม่มีความรู้ด้านนี้มากเท่าไหร่ แต่ก็บอกได้ว่า ดนตรีของหนังเรื่องนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เติมเต็มหนังเรื่องนี้จริงๆ ทุกๆฉาก ดนตรีนั้นก็เหมาะมากและเป็นชูโรงให้กับเรื่องนี้อย่างลงตัว ทำให้ได้ความอินเข้าไปแบบสุดๆ

ฉาก : ให้ความรู้สึกเหมือนคุกจริงๆ (นั้นก็เพราะคงไปถ่ายในคุกจิงๆละมั่ง 5555) หรืออาจจะเซตฉากขึ้นมา ก็ทำได้ฉากของหนังออกมาแบบไม่ขัดต่อความรู้สึกจริงๆ

อื่นๆ : ไม่ว่าจะนักแสดงสมทบ มุมกล้อง หรืออะไรก็ตามแต่ ก็ไม่มีสิ่งใดมาฉดๆให้เรื่องนี้ด้อยลงไปสักนิด หาไม่เจอจริงๆ

สรุป : ในตอนแรกที่ผมมาดูหนังเรื่องนี้ก็เพราะคะแนนรีวิวของบรรดาเว็บวิจารณ์หนังที่เทให้หนังเรื่องนี้เป็นอันดับ 1 ไม่ก็ 2 ทุกสำนักไป แต่พอมาดูกับตัวเอง ถึงได้รู้และทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังในดวงใจได้ไม่ยากเย็น ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนหนังแนวไหนก็ตาม บวกกับฉากจบที่ผมดูยังอึ้ง แถมหนังเรื่องนี้ก็อาจเปลี่ยนมุมมองชีวิตของคุณได้เช่นกัน!!!

คะแนน : 10/10  ผมรักหนังเรื่องนี้




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น